หูฟังไร้สายจากทาง Jabra ในรุ่น Elite 5

เป็นหูฟังไร้สาย true wireless ที่มาพร้อมกับระบบตัดเสียงรบกวน Hybrid ANC ครับ โดยในรุ่นนี้จะมาพร้อมกับไมโครโฟนถึง 6 ตัวสำหรับการตัดเสียงรบกวนทั้งในขณะการฟังและการโทรศัพท์ครับ

การออกแบบ

ในส่วนของการออกแบบนั้น Jabra Elite 5 เป็นหูฟัง in ear ชนิด true wireless ที่จะไม่มีสายเชื่อมต่อหูฟังสองข้างเข้าด้วยกัน ทำให้สามารถใช้งานได้อย่างอิสระ ตัวบอดี้ใช้วัสดุทำจากพลาสติกผิวด้านที่ช่วยลดรอยนิ้วมือ มาในรูปทรงสามเหลี่ยมแบบโค้งมน พร้อมปุ่มกดที่บริเวณตัวหูฟังทั้งสองข้าง พร้อมเคสสำหรับจัดเก็บและชาร์จแบตเตอรี่ โดยตัวเคสจะรองรับการชาร์จแบตเตอรี่แบบไร้สายอีกด้วย

อุปกรณ์ภายในกล่อง

  • Jabra Elite 5
  • เคสสำหรับจัดเก็บและชาร์จแบตเตอรี่
  • ชุดจุกหูฟัง
  • สาย USB-C
  • คู่มือการใช้งาน

การใช้งาน

ในส่วนการใช้งานนั้น Jabra Elite 5 จะใช้การเชื่อมต่อผ่านทาง Bluetooth 5.2 รองรับ CODEC SBC, AAC, aptX โดยสามารถใช้งานได้นานสูงสุด 28 ชั่วโมงรวมเคส (เปิด ANC, ระยะเวลาการใช้งานจะขึ้นอยู่กับระดับเสียงและฟีเจอร์ที่ใช้งาน) โดยตัวเคสสามารถเสียบสาย USB-C เพื่อชาร์จแบตเตอรี่ หรือจะชาร์จแบบไร้สายก็ได้ และมีฟีเจอร์ Google Fast Pair และ Microsoft Swift Pair ที่จะช่วยให้การจับคู่หูฟังเข้ากับอุปกรณ์สามารถทำได้อย่างง่ายดาย

ภายในของ Janbra Elite 5 จะมาพร้อมชุดไดร์เวอร์ dynamic ขนาด 6 มม. ที่สามารถตอบสนองความถี่ได้อย่างครอบคลุมตั้งแต่เสียงต่ำไปจนถึงเสียงสูง 

Jabra Elite 5 จะมีระบบตัดเสียงรบกวน Hybrid Active Noise Cancellation ที่จะเป็นการใช้ไมโครโฟนสองรูปแบบ คือไมโครโฟนที่ชี้เข้าหาตัว และชี้ออกจากตัว เพื่อทำการประมวลผลเสียงรอบตัวและตัดเสียงความถี่ต่ำที่ไม่ต้องการออก ซึ่งระบบนี้มีข้อดีคือประสิทธิภาพการตัดเสียงรบกวนจะได้รับผลกระทบน้อยลงหากหูฟังมีการขยับ นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ HearThrough ที่จะเป็นการดูดเสียงจากภายนอกเข้ามาระหว่างการใช้งาน ทำให้ผู้ใช้งานสามารถได้ยินเสียงรอบตัวแม้จะไม่ได้ถอดหูฟังออกก็ตาม

โดยระบบตัดเสียงรบกวนจะทำงานผ่านไมโครโฟน 6 ตัวที่ออกแบบมาสำหรับการรับเสียง และตัดเสียงรบกวนทั้งในขณะฟังเพลงและโทรศัพท์ ทำให้สามารถพูดคุยได้อย่างคมชัด ไม่มีเสียงรบกวน 

Jabra Elite 5 รองรับ Spotify Tap playback ที่เพียงแตะที่ตัวหูฟัง ก็จะเป็นการสั่งเล่นเพลงผ่านทาง Spotify บนอุปกรณ์ที่รองรับทันที ช่วยเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน และยังรองรับระบบสั่งงานด้วยเสียงผ่านทาง Google Assistant, Siri, Alexa

Jabra Elite 5 รองรับการปรับแต่งฟีเจอร์ต่างๆผ่านทางแอป Jabra Sound+ ที่สามารถปรับแต่ง EQ, การตัดเสียงรบกวน, การควบคุมหูฟัง 

และในส่วนของการกันน้ำ Jabra Elite 5 ออกแบบมาให้สามารถทนน้ำได้ในระดับ IP55 ที่สามารถโดนเหงื่อและละอองน้ำกระเด็นใส่ได้ ทำให้สามารถใส่ออกกำลังกายได้อย่างหายห่วงเลยครับ

สรุปเกี่ยวกับหูฟังไร้สาย Jabra Elite 5

โดยรวมแล้วหูฟังไร้สาย Jabra Elite 5 เป็นหูฟังไร้สายที่ออกแบบมาสำหรับการใช้งานที่หลากหลาย มีฟีเจอร์เด่นคือ Hybrid Noise Cancellation ที่ทำงานผ่านไมโครโฟนถึง 6 ตัว สามารถตัดเสียงรบกวนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ภายในใช้ชุดไดร์เวอร์ dynamic ขนาด 6 นิ้วตอบสนองความถี่ได้ครอบคลุมและรวดเร็ว รองรับการปรับแต่งฟีเจอร์ต่างๆของหูฟังผ่านทางแอป Jabra Sound+ อีกด้วยครับ


อุปกรณ์ภายในกล่อง

ปล่อยหูฟังรุ่นใหม่ออกมาให้ได้เลือกซื้อกันอีกแล้วครับสำหรับทาง Jabra ที่รอบนี้มาในชื่อรุ่น Elite 5 โดยยังคงคอนเซปต์ในเรื่องของการสวมใส่ที่สบายมาก ๆ เป็นเบอร์ต้น ๆ ของวงการอยู่เช่นเดิม สำหรับในรุ่น Elite 5 นี้ทางแบรนด์ได้อัดสเปคและจูนเสียงมาได้น่าสนใจทีเดียวครับ เดี๋ยววันนี้เรามาดูกันว่ามีจุดไหนบ้างที่เป็นไฮไลต์ของรุ่นนี้

สวมใส่สบายขั้นสุด

Jabra นั้นได้ลบภาพการสวมใส่ In-Ear ที่อึดอัดลงไปได้อย่างสิ้นเชิง ซึ่งทาง Jabra นั้นได้ใช้ข้อมูลผลการสแกนใบหูผู้คนมากกว่าหมื่นหูเพื่อนำมาออกแบบลักษณะของตัวหูฟังให้ผู้คนที่ใช้งานสามารถสวมใส่ได้สบายมากที่สุดแม้จะเป็นผู้ที่ไม่เคยใช้งานหูฟังแบบ In-Ear มากก่อนก็ตามครับ โดยเริ่มมาตั้งแต่ฝนรุ่น Elite 2, Elite 3, Elite 4, Elite 7 Active, Elite 7 Pro จนล่าสุดเป็น Elite 5 ครับ

ANC ที่เป็นธรรมชาติมากขึ้น

ระบบตัดเสียงรบกวนนั้นทาง Jabra ได้พัฒนามาอย่างต่อเนื่องโดยในรุ่น Elite 5 นี้สามารถสร้างความประทับใจได้ทันทีที่เปิดใช้งานเลยล่ะครับ ระบบตัดเสียงรบกวนนั้นสามารถตัดเสียงรอบข้างได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่แตกพร่า เสียงเพลงไม่เพี้ยนและปราศจากอาการมึนหัวจากการหักล้างคลื่นความถี่ จึงมั่นใจได้ว่าสามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพอย่างแน่นอนครับ 

ไมโครโฟนที่ดียิ่งขึ้น

Jabra ได้ใส่ไมโครโฟนเข้ามาให้กับ Elite 5 ถึง 6 ตัว (ข้างละ 3 ตัว) โดยตัวไมค์นั้นสามารถรับเสียงพูดของเราได้ดี ช่วยป้องกันเสียงลมให้โดยอัตโนมัติ ปลายสายจึงได้ยินเสียงพูดของผู้ใช้งานได้อย่างเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้นครับ

มาพร้อมแอปลิเคชัน

หากย้อนกลับไปสมัยที่หูฟังทรูไวเลสเข้ามาบุกตลาดบ้านเราใหม่ ๆ Jabra นั้นถือว่าเป็นเจ้าแรก ๆ ที่มีแอปลิเคชันให้เราสามารถปรับการตั้งค่าต่าง ๆ ได้ และแน่นอนว่าในรุ่น Elite 5 นี้ก็ยังคงใช้แอปลิเคชันได้เช่นกัน โดยใช้ชื่อแอปลิเคชันว่า Jabra Sound+ ที่จะมีให้ดาวน์โหลดทั้งใน Android และ iOS เลยครับ โดยสิ่งที่สามารถปรับได้นั้นมีหลายอย่าง อาทิเช่น ปรับ EQ, ปรับระดับ ANC, ปรับระดับ Hear Through, อัปเดตเฟิร์มแวร์ เป็นต้น

เชื่อมต่อพร้อมกัน 2 อุปกรณ์ 

หลายคนมองหาหูฟังทรูไวเลสที่สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ตโฟน 2 เครื่องพร้อมกันได้ในเวลาเดียวกันหรือที่เรียกว่า Multi-Point Pairing เพื่อช่วยเพิ่มความสะดวกในการใช้งานเมื่อจำเป็นต้องเชื่อมต่อพร้อมกัน ทาง Jabra นั้นก็ได้ใส่ความสามารถนี้เข้ามาให้กับ Elite 5 ด้วยเช่นกัน หากใครที่มองหาหูฟังที่มีฟีเจอร์นี้อยู่ล่ะก็ถูกใจแน่นอนครับ

ยกระดับคุณภาพเสียง

Jabra ได้ทำการยกระดับการจูนเสียงมาโดยตลอดในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา โดย Elite 5 นี้ก็จะมีจุดเด่นที่เสียงนักร้องที่ให้ความชัดเจนดีมาก ๆ เนื้อเสียงชัดใสไม่รู้สึกขุ่นเลยตำแหน่งเสียงนั้นจะอยู่ตรงกลางพอดิบพอดีกำลังฟังง่ายไม่พุ่งจนล้าหูครับ 

เสียงเครื่องสายมีรายละเอียดที่เพิ่มขึ้นขอบเสียงติดคมเล็กน้อย มีการแยกแยะเสียงซ้ายขวาได้ดี เสียงเบสลงได้ลึกปะทะดี มีความหนักแน่นและเก็บตัวได้เร็วปานกลาง ให้มิติเสียงด้านลึกที่ดีขึ้นกว่ารุ่น Elite 3 และ Elite 4 อย่างชัดเจนครับ ย่านเสียงสูงนั้นออกไปทางโทนสว่างประกายเสียงแหลมดูสดใสและมีน้ำหนักเสียงที่ดีโดยไม่ทำให้รู้สึกฟุ้งครับ

สรุปเเล้วสไตล์เสียงของ Jabra Elite 5 จะเหมาะกับผู้ที่ชอบเสียงที่เคลียร์ ๆ ไม่ติดอุ่นหรือหนา และถ้าชอบความชัดเจนของเสียงนักร้องด้วยล่ะก็รุ่นนี้เข้าทางเลยล่ะครับ หากใครที่อยากอัปเกรดขึ้นมาจากในรุ่นเริ่มต้นของทางแบรนด์ Elite 5 รุ่นนี้ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีเลยล่ะครับเพราะสเปคดีฟีเจอร์เด่น ๆ มีครบครัน มีให้เลือกซื้อ 2 สี ได้แก่ Titanium Black และ Gold Beige สนนราคานั้นอยู่ที่ 5,290 บาทเท่านั้น ตอนนี้สามารถสั่งซื้อสินค้าได้แล้วครับ 

คะแนนรีวิว

0 / 5

แต้ม

(ทั้งหมด 0 รายการ)
(0)
(0)
(0)
(0)
(0)

รีวิวจากลูกค้า

เรียงจาก

ถาม - ตอบทีมงาน



สินค้าใกล้เคียง