เครื่องเล่นเพลงพกพา Astell&Kern A&norma SR35

เครื่องเล่นเพลงพกพาจากทาง Astell&Kern ในรุ่น A&norma SR35

เป็นเครื่องเล่นเพลงขนาดพกพาที่มีดีไซน์การออกแบบที่ไม่เหมือนใครมาพร้อมกับชิป DAC ถึง 4 ตัวและแบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานได้อย่างยาวนานถึง 20 ชั่วโมงอีกด้วยครับ

การออกแบบ

ในส่วนของการออกแบบนั้น Astell&Kern A&norma SR35 จะเป็นเครื่องเล่นเพลงพกพาที่มีขนาดเล็ก โดยตัวบอดี้ของตัวเครื่องจะผลิตจากโลหะทำให้มีความแข็งแรงทนทานและมีน้ำหนักที่เบามากเพียง 184 กรัมเท่านั้นทำให้สามารถใช้งานด้วยมือข้างเดียวได้มาพร้อมกับเชิงมุมไม่ซ้ำใครที่มีขนาดหน้าจอขนาด 3.6 นิ้ว ที่ความละเอียด 720 x 1280 พิกเซล ที่ด้านบนของตัวเครื่องจะมาพร้อมกับช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5mm, Balanced 2.5mm และ Balanced 4.4mm โดยด้านข้างขอตัวเครื่องจะมีปุ่มสำหรับการควบคุมต่างๆ และที่ด้านล่างของตัวเครื่องจะมีช่องเสียบ Micro SD Card และช่อง USB-C สำหรับการชาร์จแบตเตอรี่ครับ

อุปกรณ์ภายในกล่อง

Astell&Kern A&norma SR35
ฟิล์มกันรอย
microSD card slot cover
สาย USB
คู่มือการใช้งาน

การใช้งาน

ในส่วนของการใช้งานนั้นเครื่องเล่นเพลงพกพา Astell&Kern A&norma SR35 จะออกแบบให้รองรับการเชื่อมต่อไร้สายผ่านทาง Bluetooth 5.0 ที่รองรับ CODEC A2DP, AVRCP, aptX HD และ LDAC โดยสามารถเสียบสายใช้งานผ่านช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5mm, Balanced 2.5mm และ Balanced 4.4mm ได้ทันที

Astell&Kern A&norma SR35 จะมาพร้อมกับแบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานได้นานต่อเนื่องสูงสุด 20 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง (ระยะเวลาการใช้งานจะขึ้นอยู่กับระดับเสียงและฟังก์ชันที่ใช้งาน) และใช้การชาร์จแบตเตอรี่ผ่านทางช่อง USB-C โดยมีระยะเวลาการชาร์จประมาณ 2.5 ชั่วโมง

ภายในของ Astell&Kern A&norma SR35 จะประกอบไปด้วยชิป DAC CS43198 ถึง 4 ตัว รองรับการถอดรหัสไฟล์ที่ความละเอียดสูงสุด 32/384kHz ไปจนถึง DSD256 แบบ native นอกจากนี้ยังรองรับ MQA และ Roon Ready โดยมีโหมดการใช้งานมาให้เลือกด้วยกัน 2 โหมดได้แก่โหมด Dual-DAC และโหมด Quad-DAC ให้เลือกใช้งานได้ตามที่ชอบอีกด้วยครับ

โดยระบบภายในเครื่องทั้งหมดของ Astell&Kern A&norma SR35 จะถูกควบคุมโดยชิป TERATON ALPHA ที่ทาง Astell&Kern พัฒนาขึ้นมาเอง โดยออกแบบให้เสียงที่ได้นั้นมีความใกล้เคียงกับต้นฉบับมากที่สุด พร้อมการควบคุมการทำงาน และการใช้พลังงานให้มีประสิทธิภาพสูงที่สุดนั่นเองครับ

คุณภาพเสียง

ในส่วนเรื่องเสียงนั้น Astell&Kern A&norma SR35 จะเพิ่มชิปเสียงเข้ามาให้อีก 2 ตัว รวมเป็น 4 ตัว แน่นอนว่าย่อมมีผลลัพธ์ทางเสียงที่ไม่เหมือนกันอย่างแน่นอน จุดนี้เองที่ทาง AK เปิดโอกาศให้เราได้เลือกเองได้ว่าต้องการจะใช้งานด้วยโหมด Dual-DAC หรือ Quad-DAC เพราะในโหมดที่เป็น Dual-DAC นั้นจะมีข้อดีคือฟังสนุกมีความคัลเลอร์ของเสียงกลางกับสูงที่มากกว่า เวลาฟังเพลง Rock ที่เน้นจังหวะกับอารมณ์เพลงจึงฟังได้มันส์กว่า

ส่วนใครที่ต้องการเปลี่ยนแนวไปฟังเพลงที่เน้นรายละเอียดหรือการจับผิดที่มากขึ้นพอสลับไปใช้ Quad-DAC ก็จะพบว่าเสียงที่ออกมาจะมีความละเมียดละไมยิ่งขึ้น เวทีเสียงที่กว้างขึ้นและการแจกแจงชิ้นดนตรีจะดูมีเลเยอร์ที่ดีกว่า โดยเฉพาะมิติเสียงในส่วนของด้านลึกแต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละบุคคลด้วยว่าฟังแล้วจะชอบเสียงของ Dual หรือ Quad มากกว่ากัน

แต่ที่แน่ ๆ เลยก็คือโทนเสียงโดยรวมของ SR35 ในรอบนี้จะมีความพรีเมี่ยมขึ้นดูสุภาพขึ้นกว่าในรุ่น SR25 MKII ยิ่งถ้าใครที่ถือครอง SR25 MKII อยู่แล้วถ้าได้มาลองฟังเจ้า SR35 ตัวนี้ก็จะรู้สึกอย่างเห็นได้ชัดในทันทีเลยล่ะครับ

สรุปเกี่ยวกับเครื่องเล่นเพลงพกพา Astell&Kern A&norma SR35

โดยรวมแล้วเครื่องเล่นเพลงพกพา Astell&Kern A&norma SR35 เป็นเครื่องเล่นเพลงที่มีดีไซน์การออกแบบที่แปลกใหม่ไม่ซ้ำใคร มาพร้อมกับชิป DAC CS43198 ถึง 4 ตัวที่สามารถเลือกโหมดการใช้งานได้ทั้งแบบ Dual-DAC หรือ Quad-DAC โดยสามารถเลือกใช้งานได้ตามที่ต้องการเลยครับ

รอบนี้ Astell&Kern ปล่อย DAP รุ่นเริ่มต้นออกมาใหม่ในซีรีย์ A&Norma ที่มาทดแทน SR25 MKII พลังเสียงโฉมใหม่ในสไตล์ที่คุ้นเคย เป็นมิวสิคเพลเยอร์รุ่นเล็ก ที่สเปคท้าชนรุ่นใหญ่ได้เลยทีเดียว

ตัวตนเรียบหรูไปได้ทุกที่

SR35 นั้นมีความหรูหราด้วยวัสดุ Aluminum CNC ที่รอบนี้มาในสี "Charcoal Gray" มีขนาดที่เหมาะมือพกพาสะดวกเช่นเคย

ระบบ UI/UX แบบใหม่ Crimson Theme

เปลี่ยนโฉมหน้าตาการใช้งานใหม่ให้ง่ายขึ้นสวยงามขึ้นเหมือนกับรุ่น SP3000

Quad-DAC Mode ที่เลือกได้ตามใจ

ชิปเสียง CS43198 จำนวน 4 ตัวจากทาง Cirrus Logic ที่สามารถเลือกปรับให้แมทชิ่งกับหูฟังและแนวเพลงได้ตามต้องการไม่ว่าจะเน้นฟังสนุกหรือเปลี่ยนเป็นฟังแบบจริงจังก็ปรับโหมด Quad-DAC ได้ง่ายในทันที

พร้อมแล้วสำหรับ Roon Ready

เป็นครั้งแรกของทาง Astell&Kern A&Norma Series ที่รองรับระบบ Roon Ready ที่สามารถใช้เป็นได้ทั้ง End-Point และ Bridge กับอุปกรณ์ภายนอกอื่น ๆ ได้ช่วยให้ SR35 ที่เป็นรุ่นเริ่มต้นได้มีความสามารถที่รอบด้านยิ่งกว่าเดิม

Low & High Gain

SR35 สามารถปรับเลือกกำลังขับให้เหมาะสมกับหูฟังที่ใช้งานร่วมกันได้อย่างสะดวกยิ่งขึ้น โดยจะมีทั้ง Low Gain และ High Gain ให้เลือกใช้ โดยกำลังของแต่ละระดับดังนี้

Low Gain : Unbalanced 2.1 Vrms / Balanced 4Vrms
High Gain : Unbalanced 3.1 Vrms / Balanced 6Vrms

Input และ Output หลากหลาย

รองรับการใช้งาน Input ทั้ง USB-C เพื่อใช้งานเป็น DAC/AMP กับ PC และ Mac ได้ หรือจะเป็น Input ไร้สายด้วย Bluetooth เพื่อเป็น Wireless DAC/AMP ก็ได้โดยรองรับ Codec สูงสุดที่ "LDAC"

ทางด้าน Output นั้นก็ยังมีทั้ง Headphone Out 3 ช่องทั้ง 2.5/3.5/4.4 โดยที่ใช้เป็น Analog Line Out เพื่อนำไปเข้าแอมป์หรือลำโพงแอคทีฟก็ได้หรือจะใช้เป็น Digital Out ด้วย USB-C เพื่อไปเข้า DAC/AMP ภายนอกก็ไม่เป็นปัญหา

ความจุและแบตเตอรี่

ตัวเครื่องมีความจุภายใน 64GB รองรับการเพิ่ม Micro SD Card ความจุสูงสุด 1TB ได้อีกหนึ่งช่อง ส่วนแบตเตอรี่สามารถเล่นต่อเนื่องสูงสุด "20 ชั่วโมง" โดยประมาณ ตามเงื่อนไขดังนี้

*** (Standard : FLAC, 16bit, 44.1kHz, Normal Gain, Unbalanced, Vol.50, LCD Off, Dual DAC Mode)***

สัมผัสเสียงที่ยกดับไปอีกขั้นของซีรีย์

โทนเสียงโดยรวมของ SR35 ในรอบนี้จะมีความพรีเมี่ยมขึ้นดูสุภาพขึ้นกว่าในรุ่น SR25 MKII ยิ่งถ้าใครที่ถือครอง SR25 MKII อยู่แล้วถ้าได้มาลองฟังเจ้า SR35 ตัวนี้ก็จะรู้สึกอย่างเห็นได้ชัดในทันทีเลยล่ะครับ

แต่ครั้งนี้เพิ่มชิปเสียงเข้ามาให้อีก 2 ตัว รวมเป็น 4 ตัว จุดนี้เองที่ทาง AK เปิดโอกาศให้เราได้เลือกเองได้ว่าต้องการจะใช้งานด้วยโหมด Dual-DAC หรือ Quad-DAC เพราะในโหมดที่เป็น Dual-DAC นั้นจะมีข้อดีคือฟังสนุกมีความคัลเลอร์ของเสียงกลางกับสูงที่มากกว่า เวลาฟังเพลง Rock ที่เน้นจังหวะกับอารมณ์เพลงจึงฟังได้มันส์กว่า

ส่วนใครที่ต้องการเปลี่ยนแนวไปฟังเพลงที่เน้นรายละเอียดหรือการจับผิดที่มากขึ้นพอสลับไปใช้ Quad-DAC ก็จะพบว่าเสียงที่ออกมาจะมีความละเมียดละไมยิ่งขึ้น เวทีเสียงที่กว้างขึ้นและการแจกแจงชิ้นดนตรีจะดูมีเลเยอร์ที่ดีกว่า โดยเฉพาะมิติเสียงในส่วนของด้านลึกที่ทำได้ดอย่างยอดเยี่ยมเลยล่ะครับ

ปิดเมนู

หมวดหมู่ แดค/แอมป์

แต้ม