สบายกว่านี้ ไม่มีอีกแล้ว!

ฉีกกฎการใช้งานหูฟังออกกำลังกาย ไม่ต้องใช้จุกยาง ไม่ต้องใช้ระบบสั่นสะเทือน Bonce Conduction ด้วย Shokz OpenFit หูฟังแบบ Open-ear Design ที่ออกแบบให้ใส่สบาย เหมือนไม่ได้สวมใส่ แต่ใช้ Dynamic Driver ที่ให้รายละเอียดสูง พร้อมเบสที่หนักแน่น เพื่อเพิ่มอารมณ์การออกกำลังกายให้ถึงขีดสุด!


อุปกรณ์ในกล่อง

 

เด่นทุกการใช้งาน


สมบุกสมบัน กันน้ำกันฝุ่นด้วยมาตรฐานระดับ IP54 ไม่ว่าจะลุยแค่ไหน ก็ไม่ต้องกังวล และด้วยก้านคล้องหูนุ่ม กระชับใบหู นุ่ม ใส่สบาย ไม่หลุดง่าย รองรับทุกการเคลื่อนไหว หมดกังวลเรื่องท่วงท่า ไม่ว่าจะหนักหน่วงขนาดไหน ก็เอาอยู่ไม่หลุดจากใบหูอย่างแน่นอน  

 

ควบคุมระบบสัมผัส

 

 


 

คุณภาพเสียง

ในส่วนของเรื่องเสียงนั้น Shokz OpenFit โทนเสียงโดยรวมนั้นมีความหนาและเสียงเข้มกำลังดีไม่ติดบางและไม่เสียดหู  นอกจากนี้เสียงนักร้องนั้นฟังง่ายมีมาให้ได้ยินอย่างชัดเจน สะอาดและไม่หุบไปด้านหลัง เสียงสูงโปร่งโล่งตามสไตล์ของ Open-Ear แต่ไม่ต้องกังวลเรื่องความแหลมเสียดหูนะครับ เพราะรุ่นนี้เค้าให้เสียงแหลมที่ฟังสบาย จูนมาให้ซอฟท์ลงฟังง่ายไม่เสียดหูแน่นอน ไม่ว่าคุณจะชอบฟังเพลงสไตล์ไหน OpenFit ก็สามารถให้เสียงที่ออกมาได้อย่างน่าฟังในทุก ๆ แนวเพลง

โดยรวมแล้วหูฟัง Shokz OpenFit เป็นหูฟังที่มีดีไซน์การออกแบบให้มีน้ำหนักเบา สวมใส่สบาย มาพร้อมเทคโนโลยี DirectPitch, Shokz Open Bass, การปรับช่วง EQ แบบ Real Time และไมโครโฟนที่ใช้ AI ในการตัดเสียงรบกวน นอกจากนี้ยังกันน้ำได้ในระดับ IP54 เป็นตัวเลือกสำหรับคนที่กำลังมองหาหูฟังที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่แบบครบ ๆ ได้เลยครับ

 

Video Reviews จากทีมงาน


 

หูฟัง Shokz OpenFit รุ่นนี้ มาพร้อมกับ Open Ear design ที่แม้จะไม่ใช่ Bone Conduction ครับ โดยจะไม่ได้ใช้การสั่นเพื่อส่งเสียงเข้าสู่กระดูกแล้ว แต่ได้ความสะดวกสบายในการสวมใส่ได้ทั้งวันมาแทน รวมถึงยังมีฟังก์ชั่นอื่น ๆ ที่ทำได้ดีเกินคาด

 

เมื่อมีวัสดุและการออกแบบที่ดี จึงใส่สบายขั้นสุด

Shokz ได้ออกแบบ OpenFit มาให้มีการสวมใส่แบบคล้องหูซึ่ง โดยรูปทรงของตัวก้านนั้นถูกดีไซน์มาแบบ Ergonomic Design ให้การสวมใส่ที่ดีเยี่ยมเข้ากันกับสรีระหูของคนส่วนมากโดยทาง Shokz Lab ได้ใช้ข้อมูลสแกนใบหูฟังของผู้คนทั่วโลกจำนวนมากในการสร้างรูปทรงการคล้องหูของ OpenFit ออกมาโดยใช้ชื่อว่า Dolphin ARC ครับ

นอกจากนี้วัสดุนั้นยังเป็นซิลิโคนที่อ่อนนุ่มมาก ๆ และมาความบางเพียง "0.7mm" เท่านั้นอีกทั้งน้ำหนักหูฟังต่อข้างนั้นเบาเพียง "8 กรัม" ทำให้ใส่ได้สบายไม่หนักหูครับ อีกทั้งด้วยรูปทรงแบบนี้ช่วยให้มั่นใจได้ว่าจะไม่หลุดหูง่ายสามารถทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่ต้องเคลื่อนไหวร่างกายมาก ๆ ได้อย่างมั่นใจเลยล่ะครับ อ้อ!! เจ้า OpenFit ยังมีมาตรฐาน "IP54" อีกด้วยนะครับฉะนั้นสามารถใส่ออกกำลังกายได้ไม่ต้องกลัวเหงื่อจ้า

เท่านั้นยังไม่พอทาง Shokz ยังใส่ใจเรื่องการสวมใส่มากกว่าที่คิดเพราะเค้าได้ใช้ Liquid-Silicone ที่บริเวณ Ear Cushion Core ซึ่งเป็นจุดที่ต้องสัมผัสกับบริเวณด้านในหูทำให้ไม่เกิดการกดทับหรือไปดันหูจนเจ็บเพราะ Liquid-Silicone มีความอ่อนนุ่มแบบสุด ๆ เลยล่ะครับ

 

หมดกังวลเรื่องเสียงลอด

เชื่อว่าหลายท่านสนใจหูฟังประเภท Open-Ear แบบนี้แต่มีความกังวลเรื่องของความเป็นส่วนตัวที่หูฟังระบบนี้เสียงมักจะลอดออกไปให้คนอื่นได้ยินด้วย ซึ่งทาง Shokz นั้นเข้าใจถึงความกังวลนี้ดี จึงได้ออกแบบระบบ "DirectPitch Directional Sound Field Technology" ที่จะคุมการกระจายตัวของเสียงให้ส่งตรงเข้าสู่หูของผู้ใช้งาน ไม่ให้ลอยออกไปสู่ภายนอกเหมือนกับหูฟังรุ่นอื่น ๆ

โดยทางแบรนด์ได้ระบุว่า หากอยู่ในที่เงียบแล้วเปิดความดังเสียงที่ระดับ 50% เสียงที่ลอดออกแบบแทบจะเป็น 0% ซึ่งจากที่ทำการทดสอบมานั้นถือว่าเป็นจริงตามที่ทางแบรนด์ได้กล่าวไว้ครับ เพราะคนภายนอกแทบจะไม่ได้ยินเสียงเลย หรือได้ยินก็จาง ๆ ฟังไม่ออกว่าเป็นเสียงอะไรกันแน่ ทำให้สามารถใช้งานได้อย่างสบายใจและเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้นครับ

 

 

ระบบสัมผัสที่ง่ายต่อการควบคุม

ปกติแล้วเวลาใช้งานหูฟัง TWS ที่เป็นระบบสัมผัสเวลาจะแตะเพื่อเปลี่ยนเพลงก็จะต้องแตะลงไปจะ 2 หรือ 3 ทีก็แล้วแต่รุ่น แต่สิ่งที่ตามมาคือการแตะลงไปจะเป็นดันให้ตัวหูฟังเข้าไปในรูหูมากขึ้นบางท่านที่ไวต่อเรื่องแบบนี้อาจจะรู้สึกเจ็บหรืออึดอัดได้ แต่สิ่งเหล่านี้จะไม่เกิดกับ Shokz OpenFit ครับ

เพราะตัวบอดี้เค้าจะไม่ได้เข้าไปในรูหูทำให้เวลาแตะเพื่อออกคำสั่งนั้นจะไม่เป็นการดันหูฟังให้เข้าไปด้านในจึงแตะได้อย่างมั่นใจมากยิ่งขึ้นและจะออกแรงอย่างไรก็แล้วแต่สะดวกเลย

 

 

การควบคุม

● เล่น-หยุดเพลง : แตะ 2 ครั้ง ได้ทั้ง ซ้ายและขวา
● รับ-วางสาย : แตะ 2 ครั้ง ได้ทั้ง ซ้ายและขวา
● ปฏิเสธสาย : แตะค้าง ได้ทั้ง ซ้ายและขวา
● กลับไปต้นเพลง-ย้อนเพลง : แตะค้าง 3 วินาที ข้าง ซ้าย
● ข้ามเพลง : แตะค้าง 3 วินาที ข้าง ขวา

เปิดการเชื่อมต่อ (Pairing) : ในขณะที่หูฟังอยู่ในเคส แตะที่หูฟังทั้งสองข้างค้างไว้จนไปที่เคสกระพริบเป็นสี ส้ม สลับ เขียว

 

 

 

ไมโครโฟนที่มี AI พร้อมใช้ทุกสถานการณ์

OpenFit นั้นมี AI Algorithm ที่จะเข้ามาช่วยในการกรองเสียงรบกวนและเสียงสะท้อนในสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ได้อย่างยอดเยี่ยม จึงทำให้ตัวไมโครโฟนสามารถดักจับเสียงสนทนาของผู้ใช้งานได้ง่ายยิ่งขึ้น ทำให้เสียงถูกส่งไปยังปลายสายได้อย่างชัดเจนโดยไม่ถูกเสียงรบกวนรอบข้างกลบเสียงสนทนา จึงมั่นใจได้ว่า OpenFit จะช่วยให้สามารถคุยสายสำคัญ ๆ ได้ไม่ว่าจะใช้งานอยู่ที่ไหนก็คามครับ

 

 

 

ปรับเสียงให้ลงตัวในแบบฉบับของคุณ

OpenFit นั้นรองรับกับแอปลิเคชัน "Shokz" ที่มีให้ดาวน์โหลดทั้ง Android และ iOS เลยครับ โดยจะเป็นแอปลิเคชันเดียวกันกับตัว OpenRun Pro นั่นเองครับ ซึ่งภายในนั้นก็จะมีให้ปรับแต่ง EQ ได้หรือจะเลือกเป็น Preset ที่ทางแบรนด์ใส่มาให้แล้วก็ได้เช่นกัน นอกจากนี้ก็ยังสามารถปรับแต่งระบบสัมผัสเพิ่มเติมได้อีกและยังรวมถึงอัปเดตเฟิร์มแวร์ผ่านแอปลิเคชันนี้ได้อีกเช่นกัน

 

 

 

ผสานพลังเสียงด้วยเทคโนโลยีและไดรเวอร์แบบสั่งทำพิเศษ

OpenFit นั้นมาพร้อมเทคโนโลยี "Shokz Open Bass" ที่ช่วยเสริมเสียงเบสให้มีความเหมาะสมโดยส่งตรงเข้าสู่หูของผู้ใช้งานโดยไม่ต้องผ่านการกรองใด ๆ เพื่อชดเชยจากการที่เป็นระบบ Open-Ear ที่เสียงรอบข้างจะเข้ามาเจือจางให้เบสน้อยลงตามธรรมชาติ

แต่ระบบนี้จะทำให้สัมผัสเบสได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่ทำให้เสียงดูผิดธรรมชาติ อีกทั้งยังช่วยชดเชยอิมเมจเสียงให้ใหญ่ขึ้นมีน้ำหนักและมีมวลเสียงที่เต็มอิ่มมากในลักษณะคล้ายกับหูฟังแบบ Clip-On อีกทั้งยังมีการ Equalizer เสียงให้แบบ Real Time ตามระดับความดังที่ใช้

ซึ่งทำงานควบคู่กับ Dynamic Driver ที่สั่งทำมาเป็นพิเศษขนาด "18mm. x 11mm." ที่มีประสิทธิภาพสูง หากลองเอานิ้วไปสัมผัสที่ตัวบอดี้ของหูฟังจะสามารถรับรู้ถึงแรงสั่นจากการทำงานภายในได้เลยล่ะครับ

โทนเสียงโดยรวมนั้นมีความหนาและเสียงเข้มกำลังดีไม่ติดบางและไม่เสียดหู นอกจากนี้เสียงนักร้องนั้นฟังง่ายมีมาให้ได้ยินอย่างชัดเจน สะอาดและไม่หุบไปด้านหลัง เสียงสูงโปร่งโล่งตามสไตล์ของ Open-Ear

แต่ไม่ต้องกังวลเรื่องความแหลมเสียดหูนะครับ เพราะรุ่นนี้เค้าให้เสียงแหลมที่ฟังสบายจูนมาให้ซอฟท์ลงฟังง่ายไม่เจี๊ยวจ๊าวแน่นอน ไม่ว่าคุณจะชอบฟังเพลงสไตล์ไหน OpenFit ก็สามารถให้เสียงที่ออกมาได้อย่างน่าฟังในทุก ๆ แนวเพลงครับ

 

 


 

Specification

Battery

Continuous play
OpenFit: Up to 7 hours of listening time with a single charge
OpenFit with Charging Case: Up to 28 hours of listening time

Standby time
Up to 10 days 

Charge voltage
5V±5%

Charge time
Charge the earbuds with the charging case: 60 minutes;
Empty case with charging cable: 120 minutes 

Battery capacity
Earbuds: 58mAh (Min)
Charging case: 600mAh (Min)

Quick charge
A 5-minute charge gives 1 hour of battery life (music)

Connectivity

Bluetooth® version
Bluetooth 5.2

Wireless range
33ft (10m)

Compatible profiles
A2DP, AVRCP, HSP, HFP

Design

Sweat resistance
Earbuds : IP54
Charging case: Not waterproof

Materials
Earbuds : PC , Silicone
Charging case: PC

Weight
Earbuds: 8.3g ± 0.2g
Charging case: 57g ± 1g
Total weight: 73.85g ± 1g 

Sound

Frequency Response
50Hz-16kHz

Speaker Sensitivity
96dB±2.5dB

Microphone

Microphone Sensitiviry
-38 dB ±1dB


การรับประกัน

สินค้าประกันศูนย์ไทยบจ. KOAN 2 ปีจ้าๆๆ


ตัวเคสจะมีไฟ LED สองดวงสำหรับบอกสถานะการใช้งานและแบตเตอรี่ของตัวหูฟังครับ โดยจะมีดังต่อไปนี้

● แบตเตอรี่สูง : เมื่อเปิดฝาเคส จะโชว์ไฟสีเขียวเป็นเวลา 5 วินาที
● แบตเตอรี่ต่ำ : เมื่อเปิดฝาเคส จะโชว์ไฟสีส้มเป็นเวลา 5 วินาที
● กำลังจับคู่ : จะโชว์ไฟสีส้มสลับเขียวตลอดระยะเวลาจับคู่
● รีเซ็ทคืนค่าโรงงาน : จะโชว์ไฟสีส้ม และดับลงหลังจาก 5 วินาที

และเมื่อทำการชาร์จแบตเตอรี่ตัวเคส ไฟ LED จะเปลี่ยนเป็นสีส้มเมื่อกำลังชาร์จ และเปลี่ยนเป็นสีเขียวเมื่อชาร์จเต็มแล้ว

 

 

สำหรับการใช้งานครั้งแรก เมื่อเปิดฝาเคสตัวหูฟังจะเข้าโหมดจับคู่โดยอัตโนมัติ เราก็สามารถทำการเชื่อมต่อโดยเลือกที่หัวข้อ Bluetooth บนสมาร์ทโฟนและทำการเชื่อมต่อได้เลย

แต่ถ้าหากเคยเชื่อมต่อไปแล้วและต้องการเชื่อมต่อใหม่ ให้นำหูฟังเก็บลงในกล่องทั้งสองข้าง จากนั้นให้แตะที่บริเวณที่กำหนดค้างไว้สักครู่ ไฟ LED ที่ตัวเคสจะโชว์สีส้มสลับเขียว ก็จะเป็นการเข้าโหมดจับคู่อีกครั้งหนึ่งครับ

และถ้าหากเกิดปัญหาการใช้งาน และต้องการรีเซ็ทหูฟังให้กลับสู่การตั้งค่าโรงงาน ก็ทำได้ง่ายๆโดยเก็บหูฟังลงในเคสทั้งสองข้าง จากนั้นแตะบริเวณที่กำหนดค้างไว้ 15 วินาที ตัวเคสจะโชว์ไฟสีส้มเป็นเวลา 5 วินาทีแล้วจะดับลง ก็จะเป็นการเสร็จสิ้นการคืนค่าโรงงาน จากนั้นรอสักครู่ไฟที่เคสจะติดขึ้นอีกครั้งพร้อมเข้าสู่โหมดจับคู่ให้เองเลยครับ

 

 สำหรับการควบคุมหลักๆจะมีสองอย่างคือ แตะสองครั้ง, และแตะค้างครับ โดยการควบคุมการฟังเพลง เมื่อแตะสองครั้งจะเป็นการเล่น-หยุดเพลง หากแตะค้างจะเป็นการเปลี่ยนเพลงถัดไปหรือเพลงก่อนหน้า ขึ้นอยู่กับข้างที่แตะครับ

สำหรับการใช้คุยโทรศัพท์ การแตะสองครั้งจะเป็นการรับสายหรือวางสาย แต่ถ้าแตะค้างจะเป็นการปฏิเสธรับสายนั่นเอง

สำหรับ Shokz OpenFit นั้นจะไม่รองรับการควบคุมระดับเสียง สามารถปรับระดับเสียงจากอุปกรณ์ที่จับคู่อยู่ได้เลยครับ

 

ในส่วนของการสวมใส่ เนื่องจากดีไซน์ของเจ้า OpenFit นั้นจะไม่เหมือนใคร ทำให้การใส่ครั้งแรกอาจจะงงๆสักหน่อย แต่ก็ไม่ยากเลยครับ โดยแค่เพียงหมุนตัวหูฟังไปด้านหน้าตามภาพ แล้วเกี่ยวขาหูฟังเข้ากับใบหู จากนั้นก็ทำการหมุนกลับจนสุด ตัวหูฟังจะเกี่ยวเข้ากับใบหูได้พอดี กระชับ ไม่หลุดอย่างแน่นอนครับ

 

หูฟัง Shokz OpenFit รองรับการใช้งานแบบข้างเดียวทั้งฝั่งซ้ายและขวาครับ โดยระบบเสียงจะเป็นแบบโมโนเมื่อใช้งานแบบข้างเดียว และฟังก์ชั่นการควบคุมก็จะเหมือนเดิมตามข้างที่ใช้งาน

 


อุปกรณ์ภายในกล่อง

 

Specification

Battery

Continuous play
OpenFit: Up to 7 hours of listening time with a single charge
OpenFit with Charging Case: Up to 28 hours of listening time

Standby time
Up to 10 days 

Charge voltage
5V±5%

Charge time
Charge the earbuds with the charging case: 60 minutes;
Empty case with charging cable: 120 minutes 

Battery capacity
Earbuds: 58mAh (Min)
Charging case: 600mAh (Min)

Quick charge
A 5-minute charge gives 1 hour of battery life (music)

Connectivity

Bluetooth® version
Bluetooth 5.2

Wireless range
33ft (10m)

Compatible profiles
A2DP, AVRCP, HSP, HFP

Design

Sweat resistance
Earbuds : IP54
Charging case: Not waterproof

Materials
Earbuds : PC , Silicone
Charging case: PC

Weight
Earbuds: 8.3g ± 0.2g
Charging case: 57g ± 1g
Total weight: 73.85g ± 1g 

Sound

Frequency Response
50Hz-16kHz

Speaker Sensitivity
96dB±2.5dB

Microphone

Microphone Sensitiviry
-38 dB ±1dB

 

 

รีวิว : SHOKZ OPENFIT โลกส่วนตัวที่ไร้การปิดกั้น

หูฟัง Shokz OpenFit รุ่นนี้ มาพร้อมกับ Open Ear design ที่แม้จะไม่ใช่ Bone Conduction ครับ โดยจะไม่ได้ใช้การสั่นเพื่อส่งเสียงเข้าสู่กระดูกแล้ว แต่ได้ความสะดวกสบายในการสวมใส่ได้ทั้งวันมาแทน รวมถึงยังมีฟังก์ชั่นอื่น ๆ ที่ทำได้ดีเกินคาด

 

 

 

เมื่อมีวัสดุและการออกแบบที่ดี จึงใส่สบายขั้นสุด

Shokz ได้ออกแบบ OpenFit มาให้มีการสวมใส่แบบคล้องหูซึ่ง โดยรูปทรงของตัวก้านนั้นถูกดีไซน์มาแบบ Ergonomic Design ให้การสวมใส่ที่ดีเยี่ยมเข้ากันกับสรีระหูของคนส่วนมากโดยทาง Shokz Lab ได้ใช้ข้อมูลสแกนใบหูฟังของผู้คนทั่วโลกจำนวนมากในการสร้างรูปทรงการคล้องหูของ OpenFit ออกมาโดยใช้ชื่อว่า Dolphin ARC ครับ

นอกจากนี้วัสดุนั้นยังเป็นซิลิโคนที่อ่อนนุ่มมาก ๆ และมาความบางเพียง "0.7mm" เท่านั้นอีกทั้งน้ำหนักหูฟังต่อข้างนั้นเบาเพียง "8 กรัม" ทำให้ใส่ได้สบายไม่หนักหูครับ อีกทั้งด้วยรูปทรงแบบนี้ช่วยให้มั่นใจได้ว่าจะไม่หลุดหูง่ายสามารถทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่ต้องเคลื่อนไหวร่างกายมาก ๆ ได้อย่างมั่นใจเลยล่ะครับ อ้อ!! เจ้า OpenFit ยังมีมาตรฐาน "IP54" อีกด้วยนะครับฉะนั้นสามารถใส่ออกกำลังกายได้ไม่ต้องกลัวเหงื่อจ้า

เท่านั้นยังไม่พอทาง Shokz ยังใส่ใจเรื่องการสวมใส่มากกว่าที่คิดเพราะเค้าได้ใช้ Liquid-Silicone ที่บริเวณ Ear Cushion Core ซึ่งเป็นจุดที่ต้องสัมผัสกับบริเวณด้านในหูทำให้ไม่เกิดการกดทับหรือไปดันหูจนเจ็บเพราะ Liquid-Silicone มีความอ่อนนุ่มแบบสุด ๆ เลยล่ะครับ

 

 

หมดกังวลเรื่องเสียงลอด

เชื่อว่าหลายท่านสนใจหูฟังประเภท Open-Ear แบบนี้แต่มีความกังวลเรื่องของความเป็นส่วนตัวที่หูฟังระบบนี้เสียงมักจะลอดออกไปให้คนอื่นได้ยินด้วย ซึ่งทาง Shokz นั้นเข้าใจถึงความกังวลนี้ดี จึงได้ออกแบบระบบ "DirectPitch Directional Sound Field Technology" ที่จะคุมการกระจายตัวของเสียงให้ส่งตรงเข้าสู่หูของผู้ใช้งาน ไม่ให้ลอยออกไปสู่ภายนอกเหมือนกับหูฟังรุ่นอื่น ๆ

โดยทางแบรนด์ได้ระบุว่า หากอยู่ในที่เงียบแล้วเปิดความดังเสียงที่ระดับ 50% เสียงที่ลอดออกแบบแทบจะเป็น 0% ซึ่งจากที่ทำการทดสอบมานั้นถือว่าเป็นจริงตามที่ทางแบรนด์ได้กล่าวไว้ครับ เพราะคนภายนอกแทบจะไม่ได้ยินเสียงเลย หรือได้ยินก็จาง ๆ ฟังไม่ออกว่าเป็นเสียงอะไรกันแน่ ทำให้สามารถใช้งานได้อย่างสบายใจและเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้นครับ

 

 

 

ระบบสัมผัสที่ง่ายต่อการควบคุม

ปกติแล้วเวลาใช้งานหูฟัง TWS ที่เป็นระบบสัมผัสเวลาจะแตะเพื่อเปลี่ยนเพลงก็จะต้องแตะลงไปจะ 2 หรือ 3 ทีก็แล้วแต่รุ่น แต่สิ่งที่ตามมาคือการแตะลงไปจะเป็นดันให้ตัวหูฟังเข้าไปในรูหูมากขึ้นบางท่านที่ไวต่อเรื่องแบบนี้อาจจะรู้สึกเจ็บหรืออึดอัดได้ แต่สิ่งเหล่านี้จะไม่เกิดกับ Shokz OpenFit ครับ

เพราะตัวบอดี้เค้าจะไม่ได้เข้าไปในรูหูทำให้เวลาแตะเพื่อออกคำสั่งนั้นจะไม่เป็นการดันหูฟังให้เข้าไปด้านในจึงแตะได้อย่างมั่นใจมากยิ่งขึ้นและจะออกแรงอย่างไรก็แล้วแต่สะดวกเลย

 

 

 

การควบคุม

เล่น-หยุดเพลง : แตะ 2 ครั้ง ได้ทั้งซ้ายและขวา

รับ-วางสาย : แตะ 2 ครั้ง ได้ทั้งซ้ายและขวา

ปฏิเสธสาย : แตะค้าง ได้ทั้งซ้ายและขวา

กลับไปต้นเพลง-ย้อนเพลง : แตะค้าง 3 วินาที ข้างซ้าย

ข้ามเพลง : แตะค้าง 3 วินาที ข้างขวา

เปิดการเชื่อมต่อ (Pairing) : ในขณะที่หูฟังอยู่ในเคส แตะที่หูฟังทั้งสองข้างค้างไว้จนไปที่เคสกระพริบเป็นสี ส้ม สลับ เขียว

 

 

 

ไมโครโฟนที่มี AI พร้อมใช้ทุกสถานการณ์

OpenFit นั้นมี AI Algorithm ที่จะเข้ามาช่วยในการกรองเสียงรบกวนและเสียงสะท้อนในสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ได้อย่างยอดเยี่ยม จึงทำให้ตัวไมโครโฟนสามารถดักจับเสียงสนทนาของผู้ใช้งานได้ง่ายยิ่งขึ้น ทำให้เสียงถูกส่งไปยังปลายสายได้อย่างชัดเจนโดยไม่ถูกเสียงรบกวนรอบข้างกลบเสียงสนทนา จึงมั่นใจได้ว่า OpenFit จะช่วยให้สามารถคุยสายสำคัญ ๆ ได้ไม่ว่าจะใช้งานอยู่ที่ไหนก็คามครับ

 

 

 

ปรับเสียงให้ลงตัวในแบบฉบับของคุณ

OpenFit นั้นรองรับกับแอปลิเคชัน "Shokz" ที่มีให้ดาวน์โหลดทั้ง Android และ iOS เลยครับ โดยจะเป็นแอปลิเคชันเดียวกันกับตัว OpenRun Pro นั่นเองครับ ซึ่งภายในนั้นก็จะมีให้ปรับแต่ง EQ ได้หรือจะเลือกเป็น Preset ที่ทางแบรนด์ใส่มาให้แล้วก็ได้เช่นกัน นอกจากนี้ก็ยังสามารถปรับแต่งระบบสัมผัสเพิ่มเติมได้อีกและยังรวมถึงอัปเดตเฟิร์มแวร์ผ่านแอปลิเคชันนี้ได้อีกเช่นกัน

 

 

 

ผสานพลังเสียงด้วยเทคโนโลยีและไดรเวอร์แบบสั่งทำพิเศษ

OpenFit นั้นมาพร้อมเทคโนโลยี "Shokz Open Bass" ที่ช่วยเสริมเสียงเบสให้มีความเหมาะสมโดยส่งตรงเข้าสู่หูของผู้ใช้งานโดยไม่ต้องผ่านการกรองใด ๆ เพื่อชดเชยจากการที่เป็นระบบ Open-Ear ที่เสียงรอบข้างจะเข้ามาเจือจางให้เบสน้อยลงตามธรรมชาติ

แต่ระบบนี้จะทำให้สัมผัสเบสได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่ทำให้เสียงดูผิดธรรมชาติ อีกทั้งยังช่วยชดเชยอิมเมจเสียงให้ใหญ่ขึ้นมีน้ำหนักและมีมวลเสียงที่เต็มอิ่มมากในลักษณะคล้ายกับหูฟังแบบ Clip-On อีกทั้งยังมีการ Equalizer เสียงให้แบบ Real Time ตามระดับความดังที่ใช้

ซึ่งทำงานควบคู่กับ Dynamic Driver ที่สั่งทำมาเป็นพิเศษขนาด "18mm. x 11mm." ที่มีประสิทธิภาพสูง หากลองเอานิ้วไปสัมผัสที่ตัวบอดี้ของหูฟังจะสามารถรับรู้ถึงแรงสั่นจากการทำงานภายในได้เลยล่ะครับ

โทนเสียงโดยรวมนั้นมีความหนาและเสียงเข้มกำลังดีไม่ติดบางและไม่เสียดหู นอกจากนี้เสียงนักร้องนั้นฟังง่ายมีมาให้ได้ยินอย่างชัดเจน สะอาดและไม่หุบไปด้านหลัง เสียงสูงโปร่งโล่งตามสไตล์ของ Open-Ear

แต่ไม่ต้องกังวลเรื่องความแหลมเสียดหูนะครับ เพราะรุ่นนี้เค้าให้เสียงแหลมที่ฟังสบายจูนมาให้ซอฟท์ลงฟังง่ายไม่เจี๊ยวจ๊าวแน่นอน ไม่ว่าคุณจะชอบฟังเพลงสไตล์ไหน OpenFit ก็สามารถให้เสียงที่ออกมาได้อย่างน่าฟังในทุก ๆ แนวเพลงครับ

 

 

คะแนนรีวิว

3.4 / 5

แต้ม

(ทั้งหมด 7 รายการ)
(4)
(1)
(0)
(0)
(0)

รีวิวจากลูกค้า

เรียงจาก

ถาม - ตอบทีมงาน



สินค้าใกล้เคียง