เมื่อซื้อ Sony ULT WEAR ทำการสมัครสมาชิก, ลงทะเบียน, และทำแบบสอบถามผ่านทางเว็บไซต์ www.sony.co.th/th

🔥🔥 รับฟรี! ลำโพง Sony SRS-XB100 มูลค่า 2,390.- จ้า ๆๆ 🔥🔥

**หมายเหตุ : สงวนสิทธิ์ในการเลือกสีของแถม เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด โปรโมชั่นตั้งแต่วันนี้ - 31 พ.ค. นี้จ้า ๆๆ**

หูฟังจากทาง Sony ในรุ่น WH-ULT900N (ULT WEAR)

เป็นหูฟังที่มาพร้อมกับดีไซน์ที่ทันสมัย สวมใส่ได้สบายมากๆ และยังให้เสียงที่ยอดเยี่ยมด้วยฟังก์ชัน ULT Power Sound ที่จะมอบประการณ์เสียงอันทรงพลังเหมือนอยู่ในคอนเสิร์ตให้กับคุณ พร้อมเป็นเจ้าของได้แล้ววันนี้ที่มั่นคงออนไลน์!!!

การออกแบบ

ในส่วนของการออกแบบนั้นหูฟัง Sony WH-ULT900N (ULT WEAR) ที่มีดีไซน์การออกแบบที่ทันสมัย โดยเน้นไปที่การสวมใส่ให้ใส่ได้สบายมากๆ มาพร้อมกับตัวฟองน้ำที่มีความนุ่มนวลสูงอันเป็นเอกลักษณ์ และตัวหูฟังจะมีน้ำหนักที่เบาเพียง 255 กรัมเท่านั้น และยังออกแบบมาให้สามารถพับเก็บได้ทำให้พกพาได้สะดวกสุดๆ เลยล่ะครับ เท่านั้นยังไม่พอให้รุ่นนี้ตัวหูฟังฟังมาพร้อมกับ Quick Access สำหรับการควบคุมตัวหูฟังได้อย่างรวดเร็วเพียงแค่แตะที่ด้านข้างของตัวหูฟังอีกด้วยครับ

อุปกรณ์ภายในกล่อง

  • Sony WH-ULT900N (ULT WEAR)
  • สายหูฟัง
  • สาย USB สำหรับชาร์จแบตเตอรี่
  • เคสสำหรับจัดเก็บ
  • คู่มือการใช้งาน

การใช้งาน

ในส่วนของการใช้งานนั้นหูฟัง Sony WH-ULT900N (ULT WEAR) จะใช้การเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth 5.2 เป็นหลัก โดยสามารถใช้งานได้นานต่อเนื่องสูงสุด 50 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง และยังรองรับ Quick charge ที่ชาร์จเพียง 3 นาทีก็สามารถใช้งานได้นานต่อเนื่องถึง 90 นาที (ระยะเวลาการใช้งานจะขึ้นอยู่กับฟังก์ชันที่ใช้งาน)

ภายในของหูฟัง Sony WH-ULT900N (ULT WEAR) จะใช้ไดรเวอร์ขนาด 40 มม. รูปทรงโดม ที่สามารถตอบสนองต่อความถี่ต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพครอบคลุมทุกย่านเสียงและมาพร้อมกับฟังก์ชัน Digital Sound Enhancement Engine (DSEE) ที่จะเป็นการชดเชยรายละเอียดของเสียงที่ขาดหายไปจากการบีบอัดไฟล์ ทำให้สามารถได้ยินรายละเอียดของเสียงที่ใกล้เคียงกับต้นฉบับได้มากที่สุด

และจุดเด่นของหูฟัง Sony WH-ULT900N (ULT WEAR) ก็คือฟังก์ชัน Bass Mode ที่จะมีด้วยกันสองรูปแบบได้แก่แบบ ULT1 จะให้เสียงเบสที่มีความถี่ต่ำที่ทุ้มลึก หรือแบบ ULT2 จะให้เสียงเบสที่หนักแน่นทรงพลังแบบสุดๆ โดยสามารถเปลี่ยนโหมดได้ง่ายๆ เพียงแค่กดปุ่ม ULT ที่ด้านข้างของตัวหูฟังได้เลยครับ

Sony WH-ULT900N (ULT WEAR) ยังมีฟังก์ชันตัดเสียงรบกวน Active Noise Cancelling พร้อมเทคโนโลยี Adaptive Sound Control ที่จะทำการปรับระดับการตัดเสียงรบกวนได้ตามสภาพแวดล้อมครับ นอกจากนี้ยังมี Ambient Mode ที่จะเป็นการดูดเสียงจากภายนอกเข้ามาในหูฟังทำให้สามารถได้ยินเสียงรอบๆ ตัวโดยที่ไม่ต้องถอดหูฟังออกครับ

ตัวหูฟัง Sony WH-ULT900N (ULT WEAR) ยังมาพร้อมกับฟังก์ชัน Quick Access ที่สามารถควบคุมตัวหูฟังได้ง่ายๆ ด้วยปลายนิ้ว เพื่อเปลี่ยนแทร็ก ปรับระดับเสียง และรับสายหรือโทรออก โดยการแตะหรือปัดทัชพาเนลที่ด้านข้างของหูฟังของคุณ ต้องการฟังเสียงหรือเสียงรอบตัวคุณอย่างรวดเร็วใช่หรือไม่ เพียงวางมือของคุณเหนือหูฟังเพื่อลดระดับเสียงเพลงทันทีและปล่อยให้เสียงรอบข้างเข้ามา

ในส่วนของการตั้งค่าต่างๆ ของตัวหูฟังจะสามารถทำได้ง่ายๆ ผ่านแอป Sony Headphones Connect ที่สามารถปรับแต่งได้ทั้ง EQ,Adaptive Noise Cancelling, ปรับระดับเสียง และอื่นๆ อีกมากมายครับ โดยสามารถดาวน์โหลดได้ทั้งบน App Store และ Google Play Store ครับ

คุณภาพเสียง

ในส่วนของแนวเสียงของ Sony WH-ULT900N (ULT WEAR) แบบเดิม ๆ ไม่ปรับเบสจะมาใสโทนโปร่งเสียงเคลียร์ชัด สปีดเสียงกระชับรวดเร็วดีย่านเสียงกลางบางเล็กน้อยแต่แยกแยะชิ้นดนตรีได้ดีไม่อึดอัด เสียงร้องจะขยับมาด้านหลังเล็กน้อยเป็นเสียงร้องที่ฟังได้ดีกับทั้งเพลงช้าและเพลงเร็ว ส่วนเบสตำแหน่งเค้าจะอยู่ลึกลงไปด้านล่างไม่บวมเบลอ

แต่หากต้องการเบสที่เพิ่มขึ้นให้กดที่ปุ่ม ULT ในระดับแรกจะให้มวลเบสที่ใหญ่ขึ้นเล็กน้อย เพิ่มอิมแพคให้แรงและชัดเจนขึ้น และหากปรับเพิ่มอีกจะสามารถให้มวลเสียงที่ทุ้มเนื้อหนาขึ้นจนสัมผัสได้ เอาไว้ฟังเพลง Hip Hop, EDM ได้อย่างมันส์ถึงใจเลยล่ะครับ

สรุปเกี่ยวกับหูฟัง Sony WH-ULT900N (ULT WEAR)

โดยรวมแล้วหูฟัง Sony WH-ULT900N (ULT WEAR) เป็นหูฟังที่มาพร้อมกับฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลายตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคุณในชีวิตประจำวัน และยังให้ย่านเสียงต่างๆ ได้เป็นอย่างครอบคลุมกับแนวเพลงที่หลากหลาย ฟังได้ทุกแนวไม่จำเจ หากใครที่สนใจลองแวะเข้ามาทดสอบด้วยตัวเองที่ร้านมั่นคงออนไลน์ได้ทุกสาขาเลยครับผม

การรับประกัน

รับประกันศูนย์ไทย บจ.โซนี 1 ปีจ้าๆๆ

ข้อมูลจำเพาะ

Type : Dynamic
Driver unit : 40mm
Bluetooth : 5.2
Codec : SBC, AAC
Frequency response : 5 Hz - 20,000 Hz (JEITA)
Sensitivity : 110 dB/mW
Battery Life : Up to 30 Hours (NC on) , Up to 50 Hours (NC off)
Battery Charging time : About 3.5 hrs.


อุปกรณ์ภายในกล่อง

Type : Dynamic
Driver unit : 40mm
Bluetooth : 5.2
Codec : SBC, AAC
Frequency response : 5 Hz - 20,000 Hz (JEITA)
Sensitivity : 110 dB/mW
Battery Life : Up to 30 Hours (NC on) , Up to 50 Hours (NC off)
Battery Charging time : About 3.5 hrs.

นี่คือหูฟังที่ครบครัน ฟังสนุก และสุดทุกด้านจริง ๆ | Sony ULT Wear

 

 

 

สุดกว่านี้จะมีอีกมั๊ย? ในชั่วโมงนี้ นาทีนี้ คงต้องยกให้เขาเลยครับ Sony ULT Wear ที่ทั้งสเปคกับฟีเจอร์ครบเครื่อง ตัดเสียงก็เงียบ ไมโครโฟนก็ดี น้ำหนักเบา สวมใส่สบายกว่ารุ่นไหน ๆ อีกทั้งยังมีปุ่มปรับเพิ่มเบสได้ถึง 2 ระดับ ทำให้ฟังมันส์ยิ่งกว่าหูฟังตัวไหนจะให้ได้อีกด้วย 

 

Sony ULT Wear หรือชื่อรหัสรุ่นเต็ม ๆ ว่า WH-ULT900N คือ รุ่นที่พัฒนาต่อยอดมาจากรุ่น XB (Extra Bass) นั่นเองครับ โดยจะให้การสวมใส่ที่สบายขึ้น ปรับเปลี่ยนคุณภาพเสียงใหม่  โดยแนวเสียงพื้นฐานโดยรวมจะมาในโทนสว่าง เสียงร้องเคลียร์ชัด ให้รายละเอียดชิ้นดนตรีต่าง ๆ ที่ดีเยี่ยม 

 

แต่ถ้าอยากฟังสนุกไปอีกขั้น ต้องกดปุ่ม ULT เลยจ้า นี่คือจุดเด่นที่สุดของรุ่นนี้เลย ปุ่มนี้จะเพิ่มเสียงย่านต่ำ สามารถเพิ่มได้ 2 ระดับด้วยกัน โดยจะเพิ่มมวลเบสให้มีลูกที่ใหญ่ขึ้น ลงได้ลึกขึ้น อีกทั้งมีอิมแพ็คที่แรงขึ้น ทำให้ฟังเพลงได้สนุกยิ่งขึ้น ยิ่งโดยเฉพาะระดับ 2 บอกเลยครับว่า แฟนเพลงแนว EDM, Hip Hop หรือเพลงที่เน้นจังหวะสนุก ๆ เบสหนัก ๆ ต้องถูกใจกันอย่างแน่นอนจ้า ซึ่งถ้าแนวเสียงทั้งหมดนี้ยังไม่ถูกใจ ก็ยังสามารถเข้าไปปรับ EQ ในแอป Headphones Connect หรือตั้งค่าเพิ่มเติมได้อีกด้วยจ้า 

 

ในส่วนของสเปคและฟีเจอร์ ก็มีการหยิบยกจากระดับเรือธงมาใส่ไว้ในรุ่นนี้อีกด้วย

 

ฟีเจอร์เด่น ๆ ที่ว่ามีดังนี้จ้า

✅ มีระบบตรวจจับการสวมใส่

✅ ควบคุมด้วยระบบสัมผัสที่แม่นยำ

✅ ไมโครโฟน New Beamforming พร้อม Wind Noise Reduction

✅ มีระบบตัดเสียงรบกวนและ Ambient Mode 

✅ ใช้ชิป Integrated Processor V1

✅ มีฟีเจอร์ DSEE ช่วยเพิ่มคุณภาพเสียงให้ใกล้เคียงต้นฉบับมากที่สุด

✅ รองรับระบบ 360 Reality Audio

✅ รองรับระบบ Head Tracking

✅ รองรับ Spotify Tap

✅ รองรับระบบเสียง Dolby Atmos 

**ต้องใช้งานร่วมกับทีวี Sony ตระกูล Bravia XR และตัวส่งสัญญาณ WLA-NS7**

ส่วนสเปคอื่น ๆ ก็จะมีดังนี้เลยครับ

📍 เชื่อมต่อบลูทูธ 5.2

📍 รองรับ Codec SBC, AAC

📍 ใช้งานได้ 30 ชม. เมื่อเปิดระบบ NC

📍 ใช้งานได้สูงสุด 50 ชม. เมื่อปิดระบบ NC

📍 ใช้เวลาชาร์จเต็ม 3.5 ชม.

📍 มีระบบ Quick Charge 3 นาที เล่นได้ 1.5 ชม. และชาร์จ 10 นาที เล่นได้ถึง 5 ชม. 

📍 ไดรเวอร์ไดนามิคขนาด 40 มม. แบบโดม

 

นอกจากสเปคและฟีเจอร์ระดับเรือธงแล้ว สิ่งที่ช็อคยิ่งกว่าคือ ราคาเปิดตัวครับ โดยเจ้า Sony ULT Wear จะมีราคาค่าตัวเพียง 6,990.- เท่านั้นครับ

คะแนนรีวิว

5.0 / 5

แต้ม

(ทั้งหมด 2 รายการ)
(2)
(0)
(0)
(0)
(0)

รีวิวจากลูกค้า

เรียงจาก

ถาม - ตอบทีมงาน



สินค้าใกล้เคียง